• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

คนที่ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าคนนายคนมักจะคิดแบบนี้

Started by Beer625, April 06, 2023, 08:16:24 AM

Previous topic - Next topic

Beer625

ในช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กนักเรียน คนไม่ใช่น้อยต่างเชื่อเสมอว่าถ้าหากได้ตั้งมั่นเรียน สอบติดคณะที่ใช่

ยิ่งได้โอกาสได้งานที่ดี เงินเดือนที่ดี แล้วก็ยิ่งเป็นอาชีพที่คนไหนกันแน่ก็รู้จักได้แก่ ข้าราชการ, วิศวกร


นักธุรกิจยิ่งน่าภาคภูมิไปใหญ่ เพราะว่านอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้ ส ม น้ำ ส ม เ นื้ อ มีมากมายพอที่จะจุนเจือ


ครอบครัวได้ มีสวัสดิการรองรับให้สุขสบายยังเป็นอาชีพที่จัดว่า "มีหน้ามีตา" ใครกันแน่ก็ต้อนรับกันหมด

แต่ในโลกของเรื่องจริงแล้ว อาชีพที่ "มีหน้ามีตา" ในสังคม มิได้เหมาะสมกับทุกคนเสมอไป

และในแต่ละอาชีพ เขาก็มีการระบุอัตรารับสมัครแต่ละปีที่ออกจะจำกัดน่ะสิ !

"แล้วจะเรียนไปทำไม ถ้าในที่สุดก็ได้งานที่ไม่ตรงสาย/ งานที่น้อยคนจะรู้จัก/ ค่าจ้างรายเดือนที่มิได้มากอะไร ?"

คำถามนี้จะได้คำตอบที่ เ ค รี ย ด มากเลย เพราะมันเต็มไปด้วยความคาดหมายที่มีความคิดว่า

"เรามีทางเลือกอยู่ไม่กี่อย่างในชีวิต" แต่ถ้าเกิดทดลองเปลี่ยนเป็นความคิด "ฉันปฏิบัติงานอะไรก็ได้


ไม่ว่าจะตรงสายหรือไม่ก็ตาม" มันบางทีอาจมองประโยคขี้แพ้ในสายตาบางบุคคล


แม้กระนั้นหากคิดๆดูแล้ว มันได้การพอใจ มากมายกว่าการถามแบบแรกเพราะเรื่องจริงของชีวิตเป็น

1. มนุษย์ทุกคนมีความรู้ในตนเอง "ไม่เหมือนกัน" กันไปเราไม่จำเป็นที่จะต้องเก่งเช่นเดียวกันหมด

2. ในรั้วสถานที่เรียน- ม ห า วิ ท ย า ลั ยแม้กระทั่งพวกเราได้เรียนกับอาจารย์ที่เก่งแค่ไหน

ขอบเขตความรู้มันก็เป็นเพียงวิชาความรู้ในรั้วเท่านั้นโลกของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น เรายังจะต้องทราบเหตุการณ์อีกมากมาย

ศึกษากันอีก ย า ว ลองผิดลองถูกกันอีกเยอะแยะด้วยเหตุนี้ จะมา ฟั น ธ ง ว่าเรียนมาสายวิทย์

จำต้องดำเนินการสายวิทย์ เรียนสายภาษาจะต้องทำงานสายภาษา มันก็ผิดเสมอไป

3. มันคือเรื่องปกติที่มนุษย์เราจึงควรวิ่งตามหาสิ่งที่ "ใช่"

ค่อยๆทำความเข้าใจ ค่อยๆปรับนิสัยไป สิ่งที่เรากำลังสนุกในตอนนี้ บางทีอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด

สิ่งที่เราเก่งปัจจุบันนี้ ในวันข้างหน้า มันบางทีอาจเป็นเพียงความจำ

เพราะเหตุว่าอาจมีหลายเหตุให้คิดมากขึ้น เช่น จำเป็นจะต้องพับโครงการเรียนต่อเอาไว้

เพราะว่าเงินไม่เพียงพอต้องทำงานหาเงินก่อน และก็หลังจากนั้นจึงค่อยไปเรียนศิลป์ที่เราชอบ ...

พวกเราจำเป็นต้องดูจังหวะของชีวิตด้วย (สิ่งที่มีความต้องการของชีวิตแต่ละตอน


4. สิ่งที่พวกเราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อยกว่าวิชา มันเป็น "การหล่อหลอม" หลายวิชาไม่ได้

สอนพวกเราทางตรง แต่ให้เราเบาๆซึมซับข้อดีแม้กระนั้นอย่างไปเอง ยกตัวอย่างเช่น ฝึกความทรหดอดทน, ฝึกหัดความละเอียดลออ,

ฝึกความถนัดการเข้าสังคมในกาลครั้งหนึ่งที่พวกเราไม่เห็นคุณประโยชน์ว่าจะใช้อะไรได้จริง พอโตขึ้นอีกหน่อย

มันก็จะต้องมีบ้างแหละที่พวกเราคิดอะไรขึ้นมากระทั่งจำต้องไปหา อ่ า น ปัดฝุ่นตำราเรียนอีกรอบ

ทุกความรู้ที่เราได้รับ ไม่เคยเสียเปล่า เพียงแค่พวกเรามองไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกถึงให้ดีสิ !

5. มนุษย์เราควรมีโอกาสให้กับชีวิตไว้หลายด้าน หรือ "มีแผนสำรอง"

เพื่อไม่เป็นการปิ ด กั้ นตัวเองจนเกินไป ดังเช่น ถ้าวุฒิที่พวกเราเรียนมามันหางาน ย า ก จะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิต่ำกว่านี้หางานไปก่อน?

หากพวกเรามิได้อาชีพนี้ เรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชีพอื่นไปพลางๆก่อน?

ความฝันสิ่งที่ใช่ มันไม่สมควรเป็นสิ่งที่ได้ราวกับจิตใจในทันทีทันใดมันเป็นเรื่องธรรมดามากมายๆที่จะต้องแลกเปลี่ยนกับความเหนื่อย

ความ พ ย า ย า ม หลายเท่าตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดหากจะพบว่าเพราะเหตุใด ห ม อ

บางบุคคลถึงแต่งเพลงได้?

เพราะเหตุใดบางคนเรียนวิชาชีพแต่มาเป็นศิลปิน?

เพราะเหตุใดบางคนเรียนไม่จบแม้กระนั้นไปถึงเป้าหมาย?

ถ้ายังไม่เข้าในข้อนี้ ลองย้อนกลับไป อ่ า น ข้อ 4 อีกรอบขึ้นชื่อว่า "ความรู้" เราได้รับมา

ถึงจะไม่ใช้ในทันทีทันใดก็ไม่ควรเสียดาย ขึ้นชื่อว่า "ความฝัน" ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้

ใช่ว่าวันหน้าจะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆว่า... "รู้ตัวดีหรือไม่ว่าทำอะไรอยู่?" แล้วก็

"พร้อมจะยืดหยุ่นกับทุกเหตุการณ์ชีวิตรึเปล่า?"

อย่ าลืมว่า...โลกเรากลม และมีหลายมิติ ใช่ว่าต้องดูเพียงแค่ด้านเดียว
ข้อคิดชีวิต
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13507/
คำค้นหา : ทำงานไม่ตรงสาย