หนิง ปณิตา ร่ำไห้แฉ จิน เป็นฝ่ายขอหย่า

[Fern751]

"หนิง ปณิตา" ลั่นยังไม่หย่า แต่ว่าเซ็นกติกากันเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องการจบแบบไม่ชอบ เปิดเผยจินท้าหย่ามาตลอด มีเพศหญิงครั้งก็ขอหย่าคราว ขณะนี้สุดแรงเอื้อมแล้ว ขอจบปัญหาเอง พร้อมเปิดเผยขอปฏิบัติหน้าที่เมียหลวงที่ถูกตามกฎหมาย ฟ้องมือที่สามเป็นระเบียบแล้ว พร้อมฝากถึงสามี ขอให้ทำอะไรให้ลูกยินดีว่าพ่อรักลูก !

หลังจากที่มีข่าวสารค้างคาว่าจะหย่าไหมหย่า ปัจจุบัน "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" ก็ได้ออกมาสะสางหมดเปลือก ถึงเรื่องราวชีวิตคู่กับ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ผ่านรายการคุยแซ่บโชว์วันนี้ (24 เม.ย.) เปิดโปงผัว มีหญิงคราวก็ขอหย่าที ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาท้าหย่าตลอด จนกระทั่งรู้สึกอ่อนแรง แล้วก็ต้องการจบ เนื่องจากไม่ได้อยากเกลียด ระหว่างที่ปัจจุบันนี้แยกกันอยู่ ยังไม่เซ็นหย่า แต่ว่าพร้อมหย่า แล้วก็ได้ทำข้อตกลงกันเป็นระเบียบแล้ว
"การมาสัมภาษณ์วันนี้ได้คุยแล้วก็ปรึกษาณิรินแล้ว เขาก็พร้อมจะเข้าจิตใจ มีการคุยเป็นขั้นตอนเป็นระเบียบเรียบร้อย ตกผลึกกันแล้วว่าการสอนจากความจริงที่เกิดขึ้นและจัดการกับปัญหาจากความจริงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ล่าสุดที่โพสต์ ถามคำถามว่าตกลงใจอย่างไร เห็นด้วยว่าสภาพจิตใจเรา มองเห็นพวกเราเป็นแบบนี้ พวกเราอุตสาหะสตรองมากกว่า แต่ว่าจริงๆไม่ใช่คนสตรองเลย ตัดสินใจนานนะกว่าจะโพสต์แบบงั้น ถ้าเกิดก่อนหน้าคิดปุ๊บทำปั๊บในทันที เวลานี้คิดปุ๊บเขียนเสร็จ นั่งถอยมาสองชม. หรือทำอะไรช้ามาก ดึงจนบางบุคคลไม่เข้าใจว่าดึงอะไร แต่ว่าเมื่อตัดสินใจทำแล้ว ขอให้เกิดจุดบกพร่องให้น้อยที่สุด"

เหตุผลที่คิดว่าพร้อมพูดน่าฟังสุดแรงเอื้อม ขอหมดปัญหาเอง
"เริ่มกระทบ และก็ลามไปคนบริเวณข้าง เรารู้สึกว่าประเด็นนี้เราน่าจะจัดการหลังบ้านได้ แต่ได้รับการสะสางหลังบ้านมาโดยประมาณนึงแต่ว่ามันไม่เป็นผลสำเร็จ มันไม่สมควรมีข่าวสารเกิดขึ้นอีก แม้กระนั้นข่าวสารเกิดขึ้นเรื่อยการตัดสินใจเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ ตัวหนิงข้อบกพร่องในชีวิตคือตัดสินใจเร็ว แรง ใจร้อน แต่ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งปวง การใช้ชีวิตหลายๆเรื่อง ปัจจัย หนิงไม่ผิด แต่ว่าจบด้วยหนิงเป็นคนผิดทุกหน เพราะว่าหนิงขาดสติรวมทั้งใช้อารมณ์ มันเป็นปมในใจหนิงตลอดๆบากบั่นปรับปรุงนี้ ด้วยเหตุว่ากำลังสอนลูกให้ดำรงชีวิตอย่างมีสติกับสังคมที่เกิดอะไรก็ไม่รู้เรื่องหนิงแข็งแรงซึ่งๆหน้าทุกคน แต่ว่าเวลาถอยไปอยู่ตามลำพังคนเดียว คนใกล้ตัวจะมีความเห็นว่าหนิงเป็นอย่างไร เมื่อสุดแรงเอื้อม หนิงขอหมดปัญหาเองดียิ่งกว่า

ตลอด 10 ปี ปรับมากมาย ทุกช่องทาง จากเป็นสตรีดำเนินการแล้วกลับไปอยู่ที่บ้าน ด้วยเหตุว่ากลัวแก่ กลัวไม่สวย ปาร์ตี้บ้าง ท่องเที่ยว แต่ระยะยาวมันนานเข้าก็มีความคิดว่าเช้าตรู่หญิงจะต้องทำงาน แล้วหนิงปฏิบัติงานไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ตัวหนิง พวกเราก็ต้องกลับมาในจุดที่เป็นตัวหนิง มันเหนื่อยจ้ะ ปรับสุดแท้แต่ยังไม่ดี ไม่รู้ว่าจุดเริ่มแรกมีต้นเหตุมาจากที่ไหน ปัญหานี้มีมาเรื่อยๆตั้งแต่มีข่าวใหญ่โตในอดีต ต่อไปก็มีมาอีกเรื่อยมนุษย์เราพอปรับไปเรื่อยใช้ชีวิตหลายๆอย่าง บางคราวเราก็เห็นด้วยว่าเราก็ไม่ถูก พวกเราไปจิก ไปตาม หลายๆอย่าง กระทั่งในที่สุดเราก็ยอมรับ ถ้าเกิดจะมีลูกเลยก็ทำใจได้

หากเขามีสตรีอื่นในระหว่างที่เราอยู่ในสถานะเมียก็ยอมรับได้ แต่ว่าจำเป็นต้องไม่ล้ำเส้นกัน จำต้องไม่ให้พวกเราออกมาพูด ออกมาจัดการ ไม่กระทบกับความรู้สึกลูกพวกเรา มีความคิดว่าชีวิตก็คงจะอยู่ตัวแล้ว ไม่คิดไม่ฝัน ในตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันจริงใช่ไหม แต่เมื่อกำเนิดปัญหาขึ้นจริง จะหลอกตัวเองว่าไม่จริง แล้วปล่อยให้เรื่องเฉยๆซาๆแล้วออกมาพูดค่อยๆแล้วปล่อยให้เฉยๆราวกับก่อนหน้านี้ มันทำมาตลอด แต่ ณ วันนี้มันแรงขึ้น เลยตัดสินใจว่าผ่าตัดทีเดียวให้มันจบ แล้วรักษาแผล รักษาใจต่อจากนี้ ให้เดินไปด้านหน้าได้อย่างมีพลัง"

ลั่นไม่ต้องการที่จะอยากเกลียดจิน ต้องการที่จะให้ได้โอกาสจับมือกันเพื่อลูก คิดตั้งแต่ท้ายปี ปลดปล่อยให้มีอิสระ จะทำอะไรก็ทำ
"ตกลงใจกล่าววันนี้ มั่นใจว่าจบอย่างงี้ หนิงก็มีส่วนผิด แต่ว่าหนิงทำในส่วนที่หนิงผิดเยี่ยมที่สุดแล้ว หนิงไม่ได้อยากต้องการเกลียดชังจิน อยากที่จะให้วันนี้ได้โอกาสจับมือกับจินเพื่อลูก แต่ถ้าดึงไปมากกว่านี้ หนิงไม่ต้องการที่จะอยากนั่งแอ๊บ มนุษย์เราบอบช้ำเยอะๆเปลี่ยนแปลงจากความช้ำเป็นชัง รักเยอะ รักมากมายก็ไม่ชอบมากมายหนิงไม่อยากชิงชัง อยากจับมือกับเขาต่อ แต่ว่าในสถานะบิดาของลูกหนิงไม่ใช่สถานะเขาเป็นสามีหนิง หนิงพิจารณามาจนสุดแล้ว และก็น่าจะเป็นวิธีที่เยี่ยมที่สุด รวมทั้งเป็นแนวทางที่จินเองจะได้มีอิสระ ทำทั้งหมดทุกอย่างได้มีความสุข ไม่ทำให้คนไหนกันเสีย

คิดดีแล้ว หนิงคิดมาตั้งแต่ท้ายปีที่แล้ว ก่อนหน้าที่ผ่านมาเราสองคนทะเลาะกัน เขามั่นใจว่าเรารักเขา ถึงแม้ว่าจะเขาทำยังไงพวกเราก็ยกโทษ หนิงก็แน่ใจว่ารักเขามาก ก็มีการท้าทายหย่ากันเบาๆตลอดระยะเวลา แต่พักหลังกล่าวบ่อยครั้ง ไม่ได้พูดกับหนิง แม้กระนั้นไปกล่าวกับสหาย คนที่อยู่รอบข้างหนิง เพียงพอคนที่อยู่รอบข้างหนิงมาถามคำถามว่าจะหย่ากันเหรอ หนิงก็ขำ บ้าบอ คนไหนกันแน่จะไปหย่ากับมัน"

ฝ่ายชายเป็นคนเอ่ยปากขอหย่า มีหญิงคราวก็ขอหย่าหน แถมพูดว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้หญิงคนนี้ก็เลิก
"กระทั่งช่วงที่หนิงไปอยู่เที่ยวที่เกาหลี เป็นข่าวตอนวาเลนไทน์ ข้างหลังกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว พี่ๆที่ยกย่องของหนิงแล้วก็จินเอง หลายๆท่านก็ทนไม่ได้ ก็เรียกให้มาจัดการ มาคุย แม้กระนั้นการคุยกันวันนั้น ก็ยังบอกว่าต้องการจะหย่า จินเป็นคนพูด

มีเพศหญิงหนก็ขอหย่าครั้ง หนิงเมื่อยล้า มันกระทบกับครอบครัว ทุกความเกี่ยวพันไม่มีผู้ใดไม่มีปัญหา แต่ทุกความสัมพันธ์จะดียิ่งขึ้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจทั้งสองฝ่ายที่จะแก้ไขเราเคยคุยกันแต่ว่าก็จบแบบเดิมๆพี่เป๊กเรียกไปนั่งคุย ก็จบว่าเราจะทำให้ดีเยี่ยมที่สุด แต่หลังจากกลับจากเกาหลี ก็ยังยืนยันในแบบงี้ ด้วยคำกล่าวที่ว่าต่อให้ไม่มีผู้หญิงคนนี้ก็เลิก จินเป็นคนพูด ได้ แล้วพวกเราจะรับผิดชอบลูกร่วมกันอย่างไร เขาก็ให้ข้อเสนอแนะมา 1 234 ทำข้อตกลง 1 ฉบับเพื่อยื่นให้ทนายความ ทำถูกกฎหมาย

คนอาจมีความรู้สึกว่าข้อตกลงหนิงจำต้องได้อะไรเยอะมากมายก่ายกอง ขอใช้พื้นที่ที่ตรงนี้เคลียร์เอง คนรู้เรื่องว่าศิลปินแต่งงานกับคนร่ำรวยเพราะพวกเราต้องการสุขสบาย อยากใช้เงินเขา เราก็เลือกเอง อยู่งามๆใช้เงินไป โคตรเจ็บปวด เพศหญิงคนนี้ดำเนินงานอายุ 15 ส่งน้องเรียน 3 คน สำเร็จการศึกษาที่ดีเลิศทุกคน ดูแลแม่ สมรส ไม่เคยไปตกที่นั่งลำบากหรือพึ่งพาอะไรจินเลย หนิงดูแลตนเองทั้งปวง"

เอกสารไม่จบเพราะเหตุว่าฝ่ายผัวไม่ทำอะไรเลย
"แต่ว่าเอกสารนี้ที่ไม่จบ เป็นจิน ไม่มาทำอะไร ในสิ่งที่จิน ตกลงว่าจะทำ สิ่งที่ห่วงที่สุดเลย ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดกับชีวิตหนิง คนเป็นแม่จะทราบว่าความมั่นคงและยั่งยืนของลูกเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต หนิงห่วงอยางเดียวเป็นณิรินเท่านั้น สิ่งที่หนิงขอให้ทำกับณิริน เกิดเรื่องเล็กมาก หากหนิงจะทำสิ่งพวกนั้นเองในวันนี้ หนิงก็ทำได้ แม้กระนั้นหนิงรู้สึกว่าขั้นต่ำให้ลูกกระหยิ่มใจว่าบิดาได้ปฏิบัติภารกิจการเป็นบิดาให้กับลูก หนิงก็เชื่อว่าเขารักลูก แต่หนิงไม่ได้อยากต้องการอะไรที่เป็นปากเปล่า ปากเปล่าคนไหนกันจะบอกอะไรก็ได้ พอเพียงพวกเราแยกสถานภาพความเป็นสามีภรรยาเราเป็นคนภายนอก พวกเราไม่มีสิทธิ์อะไรไปสั่งเขา เราควรจะทำเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเอกสาร ถ้าวันนึงแยกกัน เป็นเพื่อนกัน พวกเราจำต้องไม่ทะเลาะกันด้วย จำต้องคิดอะไรละเอียดรวมทั้งไกลๆหากจำเป็นต้องทะเลาะกันในฐานะความเป็นมิตร ก็ไม่ต้องเลิกกันดียิ่งกว่าไหม"
เซ็นกติกาเรียบร้อย แต่ยังไม่เซ็นหย่า
"เอกสารนี้หนิงได้เซ็นเป็นระเบียบแล้ว เป็นแค่กติกา ยังไม่ได้มีการจด เซ็นใบหย่าอะไรก็ตามจากวันนั้น จนถึงวันนี้ หนิงก็คอยการที่จะมาสะสางว่าจะทำอย่างไร แล้วก็หนิงไม่ได้รับการจัดการนั่นเลย ซึ่งหนิงไม่ทราบจำเป็นต้องประพฤติตัวอย่างไร พอเพียงมีข่าวสารก็ไม่เคยรู้จะตอบยังไง ด้วยเหตุว่ากำลังจัดการกับปัญหาหลังบ้านให้ยอดเยี่ยม หวังว่าสักครู่ก็กลับมาน่ะ แต่ข่าวล่าสุด หลังบ้านมีอะไรวุ่นวายกว่านั้นเยอะ จนกระทั่งหนิงมีความคิดว่าถ้าหนิงไม่นำก็ไม่จบ"

ทราบเพราะณิรินมาเล่าให้ฟัง
"คนรู้เรื่องนี้คือลูก และเป็นคนมาเล่าให้ฟัง ตอนต้นรู้สึกว่าเป็นเรื่องขำ ตลกขบขัน มีความรู้สึกว่าณิรินพูดเล่นๆ ห่วงพ่อ ไม่คิดว่าเกิดเรื่องจริง เราก็ไม่ต้องกลับไปบอกอะไรกับเด็ก พวกเราจะต้องไม่ไปซ้ำเรื่องเดิมกับเด็ก หน้าที่แม่คือประคองข้อเท็จจริงที่เขาทราบ ให้เขารู้เรื่องความเป็นจริงที่เด็กควรจะเข้าใจ พวกเรามีอะไรก็จะพอเดาทางลูกถูกว่าเขาเข้าใจแบบติดลบหรือเชิงบวก หรือกลางๆ

หนิงผ่านการเสวนากับลูกเป็นระเบียบแล้ว ณิรินไม่รู้เรื่องการหย่า เขากลัวว่าเขาจะมิได้พบคุณอากับปู่ และรองลงมาเป็นพ่อเขา เราก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาเลย แม่ก็ยังเป็นบุตรสาวและก็เป็นพี่สาวอา และก็เป็นเพื่อนบิดา หนิงคิดทบทวนแล้วทวนอีก กระทั่งมั่นอกมั่นใจ นี่คือผ่านแนวทางการความคิดของหนิง มานานมากแล้ว"
ต้องการหย่า ถึงเจ็บแต่ไม่ได้อยากต้องการเกลียด ฟ้องบุคคลที่สามแล้ว
"ถามว่าต้องการหย่าไหม ต้องการนะ เจ็บไหม เจ็บ แต่ว่าหนิงไม่ได้อยากต้องการรังเกียจ อยากที่จะให้จินเป็นบิดาที่น่ารักของลูก หนิงรู้สึกว่าเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด หนิงกับลูกนอนคุยกับทุกเรื่อง เขารู้ทุกเรื่อง เขาก็โอเค

จุดขึ้นต้นหนิงมิได้ผิด แม้กระนั้นจุดจบหนิงไม่ถูกตลอดระยะเวลาเพราะความขาดสติ สู้อาละวาด ด่าทอ เธอให้ข่าวแบบนี้ ฉันให้ข่าวหนักกว่าเธอ แต่ว่าวันนี้พยายามปิดทุกสิ่งทุกอย่างให้เงียบที่สุด หนิงใช้วิธีโดยชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้มิได้เซ็นหย่า ใช้วิธีโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามเมีย เมียหลวงที่จะต้องมี เขามีข้อบังคับให้จัดการ หนิงได้ฟ้องบุคคลที่สาม ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นระเบียบแล้ว

ปวดใจณิรินพบปริศนาที่สถานศึกษาทุกครั้งที่เป็นข่าว
"ณิรินเจอคำถามที่สถานศึกษาทุกครั้งที่เป็นข่าว มันเจ็บมากมายนะ ณิรินไม่มาเล่า หนิงไปทราบจากแม่คู่หูณิรินแล้วหนิงก็ถามลูกว่าทำไมไม่มาเล่าให้แม่ฟัง คำตอบของณิรินคือเขาเห็นแม่เครียด มีปัญหามากมายเยอะมาก หนูไหวแม่ หนูโอเค หนูสบาย (เสียงสั่นเครือ) เขาบอกทุกคนจะถามเขา เขารู้กันทั้งสถานที่เรียนล่ะแม่ ณิรินก็ตอบว่าใช่ ก็พ่อฉันล่ะมีข่าวสาร แต่เขายังรักกันนะ เขาเป็นเพื่อนกัน

วันนี้หนิงกล่าวก็ส่งผลเสีย หนิงไม่บอกก็มีผลต่อ แต่ถ้าหากไม่ตัดสินใจเป็นผู้นำจัดการกับปัญหาคราวนี้ ผลกระทบระยะยาวจะหนักกว่า และหนิงมั่นใจว่าทุกคนเข้าใจหนิง ก่อนหน้ามารายการนี้ หนิงก็หารือเยอะที่สุด คนสำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็คือลูกแล้ว

ขณะนี้รอคอยจัดการให้กระจ่าง ว่ายังไง อย่างที่บอก เงียบก็เสี่ยงให้คนเข้าใจผิด บอกก็มีความเสี่ยงต่อการที่คนไม่รู้เรื่องพวกเราจะไม่เข้าใจ แต่ว่าอย่างที่บอก ข้อบกพร่องในชีวิตหนิงเยอะที่สุดคือทำอะไรก็ขาดสติ เวลาเรื่องสหาย พร้อมเป็นด่านหน้า แต่เพียงพอเรื่องตนเองล้มไม่เป็นท่า ล้มและก็ยืนขึ้นมาทบทวน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นด้านหน้า หนิงตัดสินใจกล่าวอย่างมีสติที่สุดแล้ว

(มั่งมีญ่า ธัญญาเรศ เองเครือญาติ นักจัดรายการ พูดว่านี่เป็นความแข็งแรงที่สุดสำหรับความเป็นแม่ ทำหนิงก้มตัวร้องไห้) สิ่งที่ต้องการให้คนรู้เรื่อง พากเพียรมากมายเลยคะ ต้องการที่จะให้คนเห็นความอุตสาหะของหนิง ขณะที่มันห่วยแตก (มั่งมีญ่า-เบนซ์ พรชิตาเข้าไปกอด) ไม่อยากที่จะให้คนเห็นน้ำตาว่าเรามานั่งร้องไห้ อยู่บ้านพวกเราก็ยิ้ม แม้กระนั้นเหมือนเล่นละคร ร้องไห้อยู่ข้างใน ฝืนยิ้มเพื่อทำให้ลูกพวกเราไม่ทราบสึกอะไร

ยกโทษแล้ว แม้กระนั้นขั้นต่ำขอให้ทำให้ลูกยินดีว่าพ่อรักเขา
"ถามว่าอยากบอกอะไร จริงๆคุยทุกเรื่องแล้ว เกิดเรื่องก็บากบั่นคุย แต่ว่าเขาไม่คุย หนิงก็ใช้วิธีส่งข้อความ คุยทุกเรื่องในหลายๆเวอร์ชั่นแล้ว ถามว่ายังรักไหม รักในภายภาคหน้าที่จะเป็นเพื่อลูกได้ อยากพูดว่าให้ทำเพื่อลูก ไม่ต้องทำเพื่อหนิง ส่วนของหนิงมันจบแล้ว ที่เหลือทำเพื่อลูก

ยายบอกหนิงเสมอว่ามนุษย์เราจะขจัดปัญหาอะไรได้ จำต้องเห็นด้วยความเป็นจริงและก็ยอมจบ ถึงจะเริ่มสิ่งใหม่ได้ จำต้องยอมจบก่อน หากไม่ยอมจบจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ หนิงต้องการให้หนิงกับจินอยู่ในสถานะพ่อแล้วก็แม่ที่ดีของลูก ต้องการที่จะให้ทำทุกสิ่งเพื่อความยั่งยืนของลูกที่แจ้งชัด ไม่ใช่เพื่อหนิง หนิงไม่รู้จักหรอกว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอยู่กับผู้ใดกันแน่ อะไรก็ได้ ที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับลูก ให้จัดแจงให้ลูกซะ จะมากมายจะน้อยขอให้ทำให้ลูกมีความภาคภูมิว่าบิดารักเขาเดี๋ยวนี้ขอแยกกันอยู่สักพัก แม้กระนั้นหนิงมีแต่ว่าความปรารถนาดี หนิงก็อยากให้เขาได้พบผู้ที่แมตซ์กับเขา รู้เรื่องเขา และอยู่กับเขาจริงๆถ้าหากเขามีความสุข ลูกเราก็สุขสบายด้วย

หนิงยกโทษเขาไปนานแล้ว หนิงช่วยทำทุกสิ่งแล้ว เพียงแค่มีคนเห็นว่าหนิงเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชั่นที่ดียิ่งขึ้น เท่านี้ก็เกิดกำลังใจแล้ว (ร้องไห้) หนิงเป็นคนห่ามๆแจ่มกระจ่าง แม้กระนั้นคนก็ถูกมองติดลบ หนิงอัดมาทั้งยังรายการไม่มีน้ำตา (ร้องไห้) เพียงแค่เห็นในมุมบางๆว่าหนิงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ต้องการเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูกเท่านั้นเอง ข้างหลังเทปนี้กระจายเสียงไป ก็ไม่ต้องมาถามอะไรหนิงแล้ว ยุคนี้สมัยไหนแล้ว อย่าทนเพื่อเกลียด"
จิน จรินทร์
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13824/