อย่ าพึ่งตระหนกตกใจไปหากคุณเป็นผู้ที่มักเ ค รี ย ด หรือกังวลกับสิ่งต่างๆเพราะโน่นคือเรื่องปกติ

แต่ว่านิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหคอยก เนื่องจากว่ามันมีผลต่อสภาพจิตใจรวมทั้งชีวิตประจำวันของคุณได้


แม้ว่าการเลิกนิสัยแบบงี้นั้นบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ง่าย แต่ก็มีวิถีทางอยู่เช่นกัน วันนี้พวกเรา


จึงมีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณไม่เ ค รี ย ด เมื่อจำต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆและก็สิ่งที่ควบคุมมิได้ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ท่านมักจะอ่อนใจอยู่เสมอก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แต่จงจำไว้ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนไม่ได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่สามารถย้อนกลับมาคืนมาได้หรอก

ทำไมคุณไม่ยอมรับมันแล้วปลดปล่อยมันไปล่ะ ต่อไปนี้คุณจะไปก้าวไปด้านหน้าต่อแล้วก็จุดโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ

2. โฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็พอเพียง

ถ้าหากในอดีตกาลคุณทำพลาดไปแล้ว ก็จำเป็นต้องมาคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถแก้ไขมันได้ในขณะนี้แทน ถ้าคุณไม่สบอารมณ์กับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ทดลองปรับปรุงตัวเองตอนนี้ให้ดียิ่งขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะปรับปรุงแก้ไขเพราะเหตุว่ามันบางทีก็อาจจะสายไป ดังเช่นว่าถ้าเกิดคุณสอบตก คุณก็บางทีอาจจะต้องสร้างนิสัยใน


การเล่าเรียนขึ้นมาใหม่ ต้องอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ รวมทั้งต้องจุดโฟกัสกับสิ่งเหล่านี้จะดีกว่า

3. ประยุกต์แผนที่ไม่ต า ย ตัวแล้วก็มีความยืดหยุ่น

อย่ าเพิ่งจะยอมหากสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณอยากได้ ลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแผนการ เปลี่ยนแปลงแนวทางการคิด ลองนึกถึงแนวทางแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นราวกับดวงใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ท่านหายไม่ค่อยสบายใจก็คือการลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมด้วยการเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเผชิญคนใหม่ๆ

ลองทำสิ่งใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตัวเองทำเป็นดียิ่งกว่าที่คิด ต้องออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. ขมักเขม้นพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

คุณต้องพย าย ามปรับแต่งตัวเองให้ดีขึ้น แทนที่จะมัวแต่กังวลกับสิ่งที่ควบคุมมิได้ ศึกษาจากข้อผิดพลาดในอดีต

และก็อย่ าพย าย ามเปลี่ยนสมัยก่อนเนื่องจากว่าโน่นคือสิ่งที่คุณควบคุมมิได้ แต่จงเปลี่ยนพัฒนาตัวคุณให้ดีมากยิ่งกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การไม่สบายใจเยอะเกินไปนั้นทำให้ท่านสติแตกได้ ลองคุยกับเพื่อนฝูงที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในด้านบวก

คุยกับคนที่เขาตั้งใจฟังคุณ รวมทั้งเข้าใจคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณวิตกกังวลกับอะไร


รวมทั้งเอาข้อแนะนำของพวกเขามาประยุกต์ การสนทนากับคนที่คิดบวกจะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆเยอะขึ้นเรื่อยๆ

7. เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเกิดเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่ว่านี่แหละคือต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ชีวิตพวกเรานั้นสื่อความหมายขึ้นมาได้ โดยเหตุนั้นต้องเปิดรับความ

เปลี่ยน เนื่องจากว่าความเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะเลี่ยงได้

แม้กระนั้นผู้ใดจะรู้ล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว แล้วก็จงเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตัวเอง

คุณไม่อาจควบคุมได้ทุกอย่ าง เพราะฉะนั้นอย่ าโทษตนเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่ว่าคุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงตัวเองได้ การโทษตัวเองมีแต่ว่าจะทำให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรจะทำเป็นมองหาคนที่เคยทำพลาดแล้วทำความเข้าใจว่าเขาปรับปรุงมันได้ยังไง ให้กำลังใจตัวเองว่าคุณก็ทำได้เช่นกัน

9. ฝึกให้มีสมาธีแล้วก็มีสติอยู่เป็นประจำ

นั่งสมาธิ ฝึกลมหายใจ ทำให้เป็นประจำประจำวัน แล้วคุณจะพบว่ามันเกิดผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

วิถีชีวิตเป็นหนึ่งในสาเหตุของความไม่ค่อยสบายใจ อย่ างเช่น คุณกังวลว่าตัวเองอ้วนเหลือเกิน แม้กระนั้นคุณก็ยังไม่ยินยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆเพราะเหตุใดไม่ลองเปลี่ยนแปลงมะนทีละเล็กละน้อยล่ะ? ลองบริหารร่างกายทุกวี่ทุกวัน หลีกเลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนให้เพียงแต่


เพียงพอ บางเวลาคุณอาจจะรู้สึกว่าตนเองทำไม่ได้หรอก แม้กระนั้นศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ ด้วยเหตุนั้นคุณต้องเอาชนะตัวเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือทดลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คมากจนเกินไปนั้นทำให้คุณไม่สบายใจได้ง่ายสุดๆ มันมีการเทียบตนเองกับบุคคลอื่นอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณมีความคิดว่าการ

เล่นเครือข่ายสังคมมันทำให้ท่านรู้สึกแ ย่ คุณก็จำเป็นจะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ หรือให้ความสำราญกับคุณแทนจะดีมากยิ่งกว่า
ฟุ่งซ่าน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/